เปิดตัว Xiaomi Redmi 6 Pro หน้าจอ Full HD+ ขุมพลัง Snapdragon 625 แรม 4GB แบตอึด 4000 mAh เคาะราคาต่ำหมื่น!

เปิดตัว Xiaomi Redmi 6 Pro หน้าจอ Full HD+ ขุมพลัง Snapdragon 625 แรม 4GB แบตอึด 4000 mAh เคาะราคาต่ำหมื่น!Xiaomi Redmi 6 Pro
ล่าสุด Xiaomi แบรนด์ผู้ผลิตชื่อดังจากแดนมังกรได้ทำการเปิดตัว Xiaomi Redmi 6 Pro สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ราคาประหยัดจากตระกูล Redmi Series ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมดีไซน์หน้าจอรอยบาก ด้านหลังติดตั้งกล้องเลนส์คู่แนวตั้งผสานระบบ AI และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่ายที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 625 เราไปชมรายละเอียดสเปคการใช้งานกันเลยค่ะ
3
สเปคการใช้งานของ Xiaomi Redmi 6 Pro

– หน้าจอขนาด 5.84 นิ้ว อัตราส่วน 19:9
– ความละเอียด 2280×1080 พิกเซล (Full HD+)
– ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ MIUI 9
– GPU Adreno 506
– CPU Snapdragon 625 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz
– RAM 3GB และ 4GB
– ROM 32GB และ 64GB
– microSD Card สูงสุด 256GB
2
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 12MP + 5MP ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม LED Flash
– กล้องหน้าความละเอียด 5MP พร้อม AI Portrait Mode, ระบบ AI
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– สนับสนุน 4G VoLTE
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, (2.4GHz, 5GHz), Bluetooth 4.2, GPS, GLONASS
– แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับการชาร์จ 5V2A
– ขนาดตัวเครื่อง 149.33×71.68×8.75 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 178 กรัม
1
ราคาวางจำหน่าย

รุ่น RAM 3GB + ROM 32GB ราคา 999 หยวน หรือประมาณ 5,100 บาท
รุ่น RAM 4GB + ROM 32GB ราคา 1,199 หยวน หรือประมาณ 6,100 บาท
รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB ราคา 1,299 หยวน หรือประมาณ 6,600 บาท
4
ทั้งนี้ Xiaomi Redmi 6 Pro มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ (Stone Black), สีทอง (Sand Gold), สีชมพู (Cherry Blossom Powder), สีฟ้า (Bali Blue) และสีแดง (Flame Red) โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2018 เป็นต้นไป ส่วนจะมีการนำไปวางจำหน่ายนอกประเทศจีนหรือไม่ เราคงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งค่ะ

Credit : ninethaiphone

เปิดตัว vivo Y81 หน้าจอ FullView ใหญ่ 6.22 นิ้ว ขุมพลัง Helio P22 รัน Android 8.1 ราคาต่ำหมื่น

เปิดตัว vivo Y81 หน้าจอ FullView ใหญ่ 6.22 นิ้ว ขุมพลัง Helio P22 รัน Android 8.1 ราคาต่ำหมื่น
vivo Y81
ล่าสุด vivo แบรนด์ผู้ผลิตชื่อดังจากแดนมังกรได้ทำการเปิดตัว vivo Y81 สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่จากตระกูล Y Series โดยมาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.22 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ขอบจอสุดบางเพียง 2.15 มิลลิเมตร พื้นที่แสดงผลบนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 88% มาพร้อมสเปคการใช้งานที่ครบครัน เราไปชมรายละเอียดกันเลยค่ะ
2
สเปคการใช้งาน vivo Y81

– หน้าจอ IPS ขนาด 6.22 นิ้ว
– ความละเอียด 1520×720 พิกเซล (HD+)
– ขอบโค้ง 2.5D
– ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ Funtouch OS 4.0
– CPU Helio P22 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz
– GPU IMG PowerVR GE8320
– RAM 3GB
– ROM 32GB
– microSD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม LED flash
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– สนับสนุน 4G VoLTE
– รองรับ WiFi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz), Bluetooth 5, GPS
– แบตเตอรี่ความจุ 3260 mAh
– ขนาดตัวเครื่อง 155.21×75.24×7.7 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 146 กรัม
1
ทั้งนี้ vivo Y81 มีให้เลือก 1 สี ได้แก่ สีดำ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $220 หรือประมาณ 7,200 บาท ส่วนจะมีเข้ามาทำตลาดในไทยด้วยหรือไม่นั้น เราคงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งหากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมจะนำมาแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ

Credit : ninethaiphone

หลุดเครื่องต้นแบบ Samsung Galaxy S10 จอใหญ่ไร้ขอบ ไร้รอยบาก ลุ้นเปิดตัวช่วงต้นปี 2019

หลุดเครื่องต้นแบบ Samsung Galaxy S10 จอใหญ่ไร้ขอบ ไร้รอยบาก ลุ้นเปิดตัวช่วงต้นปี 2019

Samsung Galaxy S10

มีรายงานเปิดเผยว่า Samsung Galaxy S10 ว่าที่เรือธงรุ่นต่อไปจะเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดในช่วงเดือนมกราคม 2019 และจะมีราคาสูงกว่าที่คาดกันเอาไว้ ล่าสุดพบว่ามีภาพหลุดตัวเครื่องต้นแบบที่อ้างว่าเป็นของ Galaxy S10 เผยออกมาให้เราได้ยลโฉมกันแล้ว จากภาพที่ปรากฏพบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมาพร้อมดีไซน์หน้าจอไร้กรอบ Infinity Display

1

หน้าจอขอบด้านบนและล่างถูกลดขนาดลงเหลือเพียงเล็กน้อย และดูเหมือนว่าจะไม่เห็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์กล้องเซลฟี่ นั่นทำให้คาดว่าอาจซ่อนเซ็นเซอร์กล้องไว้ใต้จอแสดงผล หรืออาจใช้เป็นโมดูลแบบ pop-out คล้ายกับของ OPPO Find X หรืออาจถูกซ่อนเซ็นเซอร์ไว้ที่ขอบด้านล่างก็เป็นได้และจากข่าวลือก่อนหน้านี้ยังระบุด้วยว่า Galaxy S10 จะติดตั้งสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผลด้วย

เบื้องต้นเชื่อกันว่า Galaxy S10 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ที่สามารถเปล่งเสียงได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ลำโพง นอกจากนี้ตามภาพที่เผยออกมานั้นดูเหมือนว่าจะมีปุ่ม Bixby ด้านซ้ายตัวเครื่อง และมีปุ่มพาวเวอร์เปิด/ปิดตัวเครื่องที่ด้านขวา และคาดด้วยว่า Galaxy S10 จะถูกเปิดตัวในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือประมาณช่วงต้นปี 2019 ส่วนจะเป็นจริงตามนี้หรือไม่ หากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ

Credit : ninethaiphone

เปิดตัว Huawei Y6 Prime 2018 หน้าจอ FullView มีสแกนใบหน้า ราคาถูกโดนใจ วางขายแล้วในไทย!

เปิดตัว Huawei Y6 Prime 2018 หน้าจอ FullView มีสแกนใบหน้า ราคาถูกโดนใจ วางขายแล้วในไทย!
Huawei Y6 Prime 2018
ล่าสุดได้มีการเปิดตัว Huawei Y6 Prime 2018 อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย มาพร้อมดีไซน์หน้าจอ FullView Display มีระบบสแกนลายนิ้วมือ ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า และมีระบบเสียง Huawei Histen แบบ 3D Surrounding เราไปชมรายละเอียดสเปคการใช้งานเบื้องต้นกันเลยค่ะ
screen-17.48.12[20.06.2018]
สเปคการใช้งานของ Huawei Y6 Prime 2018

– หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9
– ความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+)
– ระบบปฎิบัติการ Android 8.0 Oreo ครอบทับ EMUI 8.0
– CPU Snapdragon 425 แบบ Quad-Core
– GPU Adreno 308
– RAM 2GB
– ROM 16GB
– รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม Selfie Toning flash
– รองรับ Wi-Fi, Bluetooth, Micro USB, GPS, AGPS
– สนับสนุน 4G LTE
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
– ขนาดตัวเครื่อง 152.4x73x7.8 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 150 กรัม
screen-17.43.37[20.06.2018]
ทั้งนี้ Huawei Y6 Prime 2018 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน และสีทอง ราคาจำหน่ายในไทยอยู่ที่ 4,690 บาท และมีโปรโมชั่นร่วมกับ AIS ราคาพิเศษเพียง 1,290 บาท เมื่อเปิดเปิดเบอร์ใหม่, ย้ายค่ายเบอร์เดิม หรือเปลี่ยนเติมเงินเป็นรายเดือน พร้อมสมัครแพ็กเกจ 4G Hot Deal เริ่มต้นที่ 499 บาท ระยะสัญญา 12 เดือน และชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,000 บาท (ส่วนลด 100 บาท นาน 10 เดือน)

Credit : ninethaiphone

มองหามือถือสำรอง? รับเครื่องไปใช้ฟรี OPPO A83 2018 16GB จัดไปราคาเบาๆ พร้อมเล่นเน็ต และโทรฟรีไม่อั้นตลอดปี

มองหามือถือสำรอง? รับเครื่องไปใช้ฟรี OPPO A83 2018 16GB จัดไปราคาเบาๆ พร้อมเล่นเน็ต และโทรฟรีไม่อั้นตลอดปี

OPPO-A83-2018-16GB

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตามทุกท่านค่ะ นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่สมัยนี้เราจะเห็นคนพกสมาร์ทโฟนมากกว่า 1 เครื่องขึ้นไป เพราะนอกจากจะมีไว้ติดต่อกับเพื่อนฝูงและครอบครัวแล้ว ก็ยังต้องมีอีกเครื่องพกไว้ติดต่อเรื่องงานอีก อีกทั้งคนที่มีธุรกิจส่วนตัวเช่นขายของออนไลน์ด้วยเนี่ย เผลอๆ อาจต้องพกมากถึง 3 เครื่องก็มีเหมือนกันนะ

ซึ่งแน่นอนว่าหากยิ่งพกหลายเครื่องก็จะยิ่งมีค่าใช้จ่ายรายเดือนงอกขึ้นมาอีก กว่าจะจ่ายครบจบแต่ละเดือนก็เล่นเอาปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว สำหรับวันนี้เราขอเสนอแพ็คเกจสุดพิเศษที่ตอบโจทย์เพื่อนๆ ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสำรองไว้ใช้งานด้านอื่นๆ อีกหนึ่งเครื่อง จ่ายเพียง 4,590 บาท เพื่อรับซิมเติมเงิน 4G TrueMove H พร้อมอินเทอร์เน็ตและโทรไม่อั้นตลอดปีแล้ว

DSCF0186

ยังได้รับ OPPO A83 2018 16GB สมาร์ทโฟนฟังก์ชั่นครบเครื่องพร้อมดีไซน์สีทองสวยหรูไปใช้งานด้วยแบบฟรีๆ เรียกได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะรู้หรือไม่ว่าปกติแล้วลำพังแค่เครื่อง OPPO A83 2018 16GB ก็ราคา 4,990 บาทซึ่งมากกว่าแพ็คเกจนี้เสียอีก สำหรับแพ็คเกจดีๆ นี้มีเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี OPPO จึงมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อเป็นการตอบแทนแก่แฟนๆ ที่ติดตามกันมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา

DSCF0190

ซึ่งภายในแพ็คเกจจะเป็นซิมเติมเงิน ทุกๆ เดือนจะได้รับอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดความเร็ว 1GB หลังจากใช้ครบแล้วก็จะปรับเป็นความเร็ว 1Mbps ไม่อั้น และโทรฟรีในเครือข่าย (หากโทรนอกเครือข่ายนาทีละ 1 บาท) สุดท้ายแล้วยังให้ใช้ True Wi-Fi ฟรีอีกด้วย ทั้งหมดได้เต็มๆ เลย 1 ปี ไม่ต้องเติมเงินเพิ่มหากไม่ต้องโทรนอกเครือข่ายหรือซื้อความเร็วเพิ่ม

DSCF0248

นอกจากแพ็คเกจที่ใช้ยาวๆ ได้ไปอีก 1 ปีโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มแล้ว OPPO A83 2018 16GB ก็ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องไม่น้อยหน้าเช่นกันด้วยเทคโนโลยีผู้ช่วย AI ที่ถูกฝังเข้ามาสำหรับสมาร์ทโฟนที่มาราคาไม่ถึง 5,000 บาทเช่นกัน ไล่ไปตั้งแต่ดีไซน์บางเบา จับใช้งานได้สะดวกสบายด้วยมือเดียว แถมยังมีหน้าจอกว้าง Full Screen ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440×720 ล้านพิกเซล (HD+)

DSCF0215

ไม่ว่าจะดูคลิปวิดีโอ จะเล่นเกม หรือท่องโลกโซเชียลมีเดีย ก็เต็มอิ่มครบอรรถรส กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI Beauty ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ใบหน้า 200 จุด และจำแนกแยกแยะเพศ อายุ สีผิว และเชื้อชาติได้อย่างอัจฉริยะ

DSCF0222

นอกจากนี้กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งมีคุณภาพไม่น้อยหน้าสมาร์ทโฟนที่มีราคาเหยียบหมื่นเลยทีเดียว สำหรับเรื่องแบตเตอรี่ก็ไม่ต้องห่วงเลยเพราะว่า OPPO A83 2018 16GB มาพร้อมกับแบตเตอร์รี่ขนาด 3180 mAh ซึ่งรองรับการใช้งานทั่วไปได้ทั้งวัน และยังมีโหมดประหยัดพลังงานด้วยหากแบตเตอรี่ใกล้หมด

16GB

นับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้สำหรับผู้ที่กำลังมองหามือถือสำรองที่พร้อมจะช่วยเหลือคุณได้เสมอ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อแพ็คเกจสุดคุ้มนี้ได้ตามตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ และกดรับสิทธิ *777*883# แล้วกดโทรออก โปรโมชั่นดีๆ มีขึ้นตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2561 งานนี้บอกได้คำเดียว… ห้ามพลาด!!!

Credit : ninethaiphone

รีวิว OPPO A83 2018 16GB เซลฟี่สวยคมชัด จ่ายเพียง 4,590 บาท ได้ทั้งเครื่อง + เน็ต + โทรฟรีไม่อั้นตลอดทั้งปี!!

รีวิว OPPO A83 2018 16GB เซลฟี่สวยคมชัด จ่ายเพียง 4,590 บาท ได้ทั้งเครื่อง + เน็ต + โทรฟรีไม่อั้นตลอดทั้งปี!!

OPPO A83 2018 16GB

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเซลฟี่สวย จอใหญ่เต็มตา แบตเตอรี่ใช้งานได้นานและสเปคครบครัน ในราคาไม่เกิน 5,000 บาท ล่าสุดทาง OPPO แบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำจากประเทศจีนซึ่งขึ้นชื่อในฐานะผู้นำด้านกล้องหน้าเซลฟี่ ได้มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อแทนคำขอบคุณฉลองครบรอบ 10 ปี OPPO 10 years Anniversary
16GB
มอบโปรโมชั่นเหนือใคร ให้จ่ายเพียง 4,590 บาท แล้วรับเครื่อง OPPO A83 2018 16GB ไปใช้งานฟรี (ปกติเครื่องเปล่าราคา 4,990 บาท) พร้อมยังได้แนบซิม TrueMove H แบบเติมเงินมาให้อีกด้วย โดยสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต โทรฟรีในเครือข่าย 24 ชั่วโมง และ Wi-Fi ฟรีไม่อั้นตลอดทั้งปีบนเครือข่าย 4G TrueMove H (สำหรับลูกค้าแบบเติมเงินเท่านั้น)

ในส่วนของแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตที่ให้มานั้นเพื่อนๆ สามารถเล่นเน็ตเต็มสปีดได้ 1GB หลังจากใช้งานครบแล้วจะปรับเป็นความเร็ว 1Mbps ให้เล่นแบบไม่อั้น พร้อมทั้งโทรในเครือข่าย และเล่น Wi-Fi ฟรีไม่จำกัดปริมาณตลอด 1 ปี ไม่ต้องเติมเงินเพิ่มถ้าหากไม่ต้องการโทรนอกเครือข่าย หรือซื้อความเร็วอินเทอร์เน็ตเพิ่มค่ะ (หากโทรนอกเครือข่ายคิดนาทีละ 1 บาท)

ถือได้ว่าเป็นโปรโมชั่นที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม และหากเพื่อนๆ ท่านใดที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ไม่ว่าจะใช้เป็นเครื่องหลัก หรือใช้เป็นเครื่องสำรองไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาดค่ะ ซึ่งหากท่านใดสนใจสามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ และกดรับสิทธิได้ที่ *777*883# กดโทรออก ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฏาคม 2561 ค่ะ

DSCF0071

สำหรับในครั้งนี้ทาง ninethaiphone ก็จะขอนำเครื่อง OPPO A83 2018 16GB ที่ครบครันด้วยสเปคการใช้งานที่ตอบโจทย์ แถมยังมาพร้อมโปรโมชั่นกระชากใจ มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจโปรโมชั่นสุดพิเศษนี้ พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปติดตามบทความนี้กันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค OPPO A83 2018 16GB

 Features OPPO A83 (2018) 16GB
วันเปิดตัว :  – เมษายน 2561
ราคา :  – 4,990.- (RAM 2GB + ROM 16GB)
 – โปรโมชั่นพิเศษจาก TrueMove H จ่ายเพียง 4,590.-
ระบบปฏิบัติการ :  – Android 7.1 Nougat ครอบทับ ColorOS 3.2
หน้าจอ :  – หน้าจอ TFT
 – ขนาด 5.7 นิ้ว
 – ความละเอียด 1440×720 พิกเซล
 – Multitouch
CPU :  – Helio P23 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.5GHz
GPU :  – Mali G71 MP2
RAM :  – 2GB
ROM :  – 16GB
 – microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :  – 13 ล้านพิกเซล
 – ค่ารูรับแสง f/2.2
 – LED Flash
 – AI Beauty
 – Filter
 – autofocus
 – Geo-tagging
 – touch focus
 – HDR
 – panorama
 – face detection
กล้องหน้า :  – 8 ล้านพิกเซล
 – ค่ารูรับแสง f/2.2
 – AI Beauty
Video :  – 1080p@30fps
Battery :  – 3180 mAh
ขนาด :  – 150.5×73.1×7.7 มม.
น้ำหนัก :  – 143 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM แบบ Triple
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
 – 3G : WCDMA 850/900/2100 MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n 2.4/5GHz
 – Bluetooth 4.1
 – OTG
 – microUSB 2.0
GPS :  – GPS
 – A-GPS
 – GLONASS
Sensor :  – E-compass
 – Light sensor
 – Accelerator
 – Proximity
สี :  – แดง
 – ทอง

แกะกล่อง OPPO A83 2018 16GB

DSCF0044
1

สำหรับแพ็คเกจตัวกล่องของ OPPO A83 2018 16GB จะมีการแนบซิมการ์ด TrueMove H แบบเติมเงินมาให้หน้ากล่องค่ะ

DSCF0057

โดยกล่องบรรจุจะมีขนาดกะทัดรัดพร้อมมีการระบุไว้เด่นชัดที่กรอบสีทองมุมซ้ายบนว่าเป็นรุ่น RAM 2GB + ROM 16GB ซึ่งปกติแล้ว OPPO A83 2018 มีให้เลือกทั้งหมด 3 เวอร์ชัน ได้แก่ รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB ราคา 6,990 บาท, รุ่น RAM 3GB + ROM 32GB ราคา 6,490 บาท และรุ่น RAM 2GB + ROM 16GB ราคาพิเศษ 4,590 บาท (ราคาปกติ 4,990 บาท) โดยเพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้ทุกรุ่นที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

DSCF0058

OPPO A83 2018 16GB จะเป็นโมเดลที่รองรับเฉพาะเครือข่าย TrueMove H เท่านั้น และสำหรับผู้ใช้งานที่ใช้ซิมการ์ดแบบเติมเงินที่แนบมาให้พร้อมกับเครื่อง รับสิทธิพิเศษเล่นเน็ตเต็มสปีดได้ 1GB และเน็ตไม่อั้นความเร็ว 1 Mbps พร้อมโทรในเครือข่าย และเล่น Wi-Fi ฟรีไม่จำกัดปริมาณตลอดทั้งปี เพียงกดรับสิทธิที่ *777*883# และกดโทรออกค่ะ

00000

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– OPPO A83 2018 16GB ตัวเครื่องสีทอง
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ (5V1A)
– สาย micro USB
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– ใบรับประกันสินค้า
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (Ejection pin)
– ฟิล์มกันรอยแบบใส (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– ซิมการ์ด TrueMove H แบบเติมเงิน

ทำความรู้จัก OPPO A83 2018 16GB

DSCF0105

ด้านหน้า OPPO A83 2018 16GB มาพร้อมจอแสดงผล TFT แบบ Full Screen ขนาด 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด 1440×720 พิกเซล คมชัดระดับ HD+ โดยหน้าจอมีขนาดใหญ่เต็มตาแต่ตัวเครื่องไม่ใหญ่ตามด้วย สามารถใช้งานได้อย่างเพลิดเพลินไร้ขีดจำกัด พร้อมตอบสนองทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นดูหนังหรือเล่นเกมค่ะ

DSCF0114

ด้านหน้าส่วนบน มีการเว้นขอบด้านบนไว้สำหรับติดตั้งตำแหน่งต่างๆ ได้แก่ เลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงสนทนา, Screen flash และเซ็นเซอร์ต่างๆ ขณะที่ฟิล์มกันรอยนั้นเป็นแบบใสติดมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

DSCF0115

ด้านหน้าส่วนล่าง มีปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ส่วนขอบด้านล่างมีการเว้นว่างไว้พอประมาณ แต่จะไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ

DSCF0124

ด้านหลัง OPPO A83 2018 16GB ตัวเครื่องรูปลักษณ์สวยงามถือจับกระชับมือ บอดี้นั้นใช้เป็นวัสดุพลาสติกผิวเรียบด้านไม่ลื่นมือ มีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพเลนส์เดี่ยวพร้อม LED flash ที่มุมบนซ้าย และมีโลโก้ OPPO ตรงกึ่งกลางตัวเครื่อง สำหรับขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 150.5×73.1×7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเบาเพียง 143 กรัม

DSCF0129

ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม LED Flash และโลโก้แบรนด์ค่ะ โดยเลนส์กล้องมีลักษณะนูนออกมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย

DSCF0128

ด้านหลังส่วนล่าง ผิวสัมผัสเรียบด้านเป็นพื้นที่ว่างเปล่าค่ะ

DSCF0151

ด้านบนตัวเครื่อง ไร้ปุ่มกดการใช้งานใดๆ

DSCF0133

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ช่องเสียบพอร์ต micro USB, รูไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

DSCF0156

ด้านซ้ายตัวเครื่อง จะมีปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง

DSCF0159

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดหรือรีสตาร์ทตัวเครื่อง และช่องใส่ซิมการ์ด

DSCF0154

OPPO A83 2018 16GB รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot โดยรองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) และ microSD Card ที่รองรับสูงสุด 256GB ได้ภายในถาดเดียว (SIM + SIM + microSD Card) โดยไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ

การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่อง

ทดสอบประสิทธิภาพ

Screenshot_2018-06-13-17-43-35-82

เมื่อนำ OPPO A83 2018 16GB ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Helio P23 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.5GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali G71 MP2 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat ครอบทับ ColorOS 3.2 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด  พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 79379 คะแนน โดยใกล้เคียงกับคะแนนของ OPPO A83 เวอร์ชัน RAM 3GB + ROM 32GB ที่เราได้รีวิวให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว)

Screenshot_2018-06-13-17-44-48-19
Screenshot_2018-06-13-17-45-18-52

สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ OPPO A83 2018 16GB ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล CPH1729, รัน Android 7.1.1, ใช้ชิปเซ็ต MT6763 หรือ Helio P23, หน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 871MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 5.08GB เป็นต้น

DSCF0222

เมื่อทดสอบเล่นเกม RoV โดยปรับเฟรมเรทสูง และภาพ HD พบว่า OPPO A83 2018 16GB ทำออกมาได้ดี เล่นเกมลื่นไหลเต็มอิ่มครบอรรถรส ไม่ค่อยมีอาการกระตุกให้เห็น

DSCF0236

และไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ท่องอินเทอร์เน็ต หรือเล่นยูทูป ด้วยความเป็นหน้าจอ Full Screen ที่มีขนาดกว้าง 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ ทำให้ใช้งานได้อย่างเพลิดเพลินทีเดียวค่ะ

Interface

หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น สำหรับการโอนย้ายไฟล์ในตัวเครื่องเข้า PC ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการเสียบสาย micro USB ค่ะ

หลังปลดล็อกหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้า Home screen โดยจะมีมาให้จำนวน 2 หน้า และสามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นก็สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน และหากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่องก็ทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ แล้วเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ทันที

สำหรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส ทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง และคืนค่าได้อย่างสะดวกสบาย

เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่เมนูแถบแจ้งเตือน ส่วนหน้า Quick settings เข้าถึงง่ายๆ ด้วยการเลื่อนหน้าจอด้านล่างขึ้น ขณะที่การเปิด-ปิดการใช้งานเครื่องให้กดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค่ะ

เมนูตั้งค่าภายในตัวเครื่อง

สามารถปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดการปกป้องในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้

หน้าแสดงการตั้งค่าเพิ่มเติมอื่นๆ รวมถึงแสดงการอัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันใหม่ๆ ด้วย

OPPO A83 2018 16GB มาพร้อมแบตเตอร์รี่ความจุ 3180 mAh ซึ่งรองรับการใช้งานทั่วไปได้ทั้งวัน แถมยังมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ด้วยหากแบตเตอรี่ใกล้หมด ทำให้เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ได้แบบเพลินๆ เลยค่ะ

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในตัวเครื่อง OPPO A83 2018 16GB ไม่รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า เหมือนกับเวอร์ชันความจุ 32GB และ 64GB แต่เวอร์ชัน 16GB จะเป็นการใช้รหัสผ่าน, วาดรูปแบบการล็อคหน้าจอ, ใส่ตัวเลขและตัวอักษรแทนค่ะ

รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ

การใช้งานอัจฉริยะลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการใช้งาน ด้วยท่าทางลักษณะแบบง่ายๆ, หน้าแสดงไฟล์ที่ใช้งานทั้งหมดในเครื่อง และเมนูตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ภายในตัวเครื่อง

ตัวช่วยดีๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ทั้งยังปิดการแจ้งเตือน กั้นการรบกวนต่างๆ ระหว่างที่เราเล่นเกมค่ะ

สามารถดาวน์โหลดธีม หรือวอลเปเปอร์น่ารักๆ โดยไม่เสียค่าบริการได้ที่ร้านค้าธีม, รองรับ OPPO Cloud สำรองข้อมูลในตัวเครื่อง และสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store

สำหรับ iReader เปรียบเสมือนห้องสมุดฉบับพกพา มีทั้งแบบให้อ่านฟรี และแบบเสียเงินซื้อค่ะ

รองรับ OPPO Share ให้สามารถส่งไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถส่งไฟล์ภาพระหว่างสมาร์ทโฟน OPPO ความเร็วสูงกว่า Bluetooth ถึง 100 เท่า โดยไม่ง้ออินเทอร์เน็ต

ศูนย์รวมแอปฯ Google มีให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ หรือยูทูป โหมดเครื่องมือการใช้งานมีมาให้แบบครบครัน เริ่มต้นที่ เครื่องบันทึกเสียง

เข็มทิศ, เครื่องคิดเลข, วิทยุ FM

Keep หรือสมุดโน๊ต, การโทร, ส่งข้อความ

หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่องได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชัน Split Screen การใช้งาน 2 หน้าจออีกด้วย

โดยสามารถเปิดใช้งานได้ง่ายๆ อาทิ ใช้ 3 นิ้ว แตะบนหน้าจอแล้วเลื่อนขึ้นเพื่อแบ่งหน้าจอ หรือกดค้างไปที่ปุ่ม Recent Apps เพื่อเข้าสู่โหมดแบ่งหน้าจอ และยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ เพื่อสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

หน้า_1

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานกล้องหน้าของ OPPO A83 2018 16GB ได้แก่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse นั่นเอง, โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD รองรับโหมด Beauty, โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติที่รองรับการถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ (รูปหยดน้ำด้านบน), HDR, ฟิลเตอร์สีต่างๆ และ Screen flash

หน้า_2

โหมด AI Beauty สามารถปรับตั้งค่าความสวยเนียนได้ 6 ระดับ หรือจะเปิด Auto ก็สวยงามไม่แพ้กัน, ถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง และการถ่ายภาพฟิลเตอร์สีต่างๆ

หลัง_1

ลำดับถัดไปเราไปชมโหมดถ่ายภาพของกล้องหลังกันเลยค่ะ เริ่มกันที่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse, โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD รองรับการเปิดใช้งานโหมด Beauty และถ่ายภาพออโต้ปกติที่รองรับ HDR, ฟิลเตอร์สีต่างๆ และ LED flash แต่จะไม่รองรับถ่ายภาพ Bokeh เหมือนกับกล้องหน้าค่ะ

หลัง_2

โหมด AI Beauty สามารถปรับตั้งค่าความสวยเนียนได้ 6 ระดับ (ไม่มีระบบ Auto),  ถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง และโหมดผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance, EV, ISO, Shutter Speed และระยะโฟกัสได้เอง เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง และกล้องหน้าของ OPPO A83 2018 16GB กันเลยค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก OPPO A83 2018 16GB

IMG20180613194728
IMG20180613194921
IMG20180613195528
IMG20180613195509
IMG20180616140509
IMG20180617141118
IMG20180616145025
IMG20180617133139
IMG20180616144631
IMG20180616145046
IMG20180616144802
IMG20180617133836
IMG20180617134005
IMG20180617134710
IMG20180617134532
IMG20180617134730
IMG20180617135146

OPPO A83 2018 16GB มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม LED Flash และเทคโนโลยีกล้องอันชาญฉลาด AI Beauty ที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ และโหมดกล้องมีให้ใช้งานตามมาตรฐาน ได้แก่ Time Lapse , บันทึกวิดีโอ, ถ่ายภาพออโต้ปกติ, AI Beauty, พาโนรามา และโหมดผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance, EV, ISO, Shutter Speed และระยะโฟกัสได้เอง

กล้องถ่ายภาพสามารถจับโฟกัสได้เร็ว ถ่ายภาพออกมาคมชัดแม้ว่าสภาพอากาศขณะนั้นจะแปรปรวน บรรยากาศจะคลึ้มฟ้าคลึ้มฝน แต่ยังแสดงรายละเอียดออกมาได้ดี นอกจากนี้การถ่ายภาพแล้วซูมก็ทำออกมาได้ไม่แย่เท่าไหร่ ยังเห็นรายละเอียดค่อนข้างชัดอยู่ เราไปชมตัวอย่างภาพซูมกันเลยค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติ vs ซูม 4 เท่า 

IMG20180617133520
IMG20180617133534
IMG20180616144816
IMG20180616144826
IMG20180617133030
IMG20180617133051

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก OPPO A83 2018 16GB

DSCF0215

OPPO A83 2018 16GB มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อมเทคโนโลยี AI Beauty ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสำหรับปรับแต่งผิวใบหน้าให้สวยงามเป็นธรรมชาติ ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ใบหน้า 200 จุด และจำแนกแยกแยะเพศ อายุ สีผิว และเชื้อชาติได้อย่างอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังละลาย (รูปหยดน้ำด้านบน) อีกด้วย

ปิดบิวตี้, เปิดบิวตี้, Bokeh

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า : ถ่ายภาพปกติ, เปิดใช้งาน AI Beauty และถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ

สำหรับโหมด AI Beauty ถ่ายภาพออกมาได้สวยเนียนทันใจมากถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะมีความละเอียดน้อยไปนิด โดยสามารถปรับตั้งค่าความขาวเนียนได้เอง 6 ระดับ ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าปรับอยู่ที่ระดับ 3 กำลังสวยเป็นธรรมชาติเลยค่ะ ทั้งยังมีระบบ Auto Beauty ปรับระดับของความเนียนใสเอาใจสาวๆ หนุ่มๆ ที่ชื่นชอบการเซลฟี่โดยเฉพาะเลยค่ะ

1,2,3

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าโหมด AI Beauty : ระดับ 1, ระดับ 2 และระดับ 3

4,5,6

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าโหมด AI Beauty : ระดับ 4, ระดับ 5 และระดับ 6

สรุปแล้วกล้องหน้าของ OPPO A83 2018 16GB เซลฟี่ออกมาได้สวยเนียนถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟน OPPO จริงๆ และในส่วนของโหมด AI Beauty ที่ปรับได้สูงสุด 6 ระดับ ภาพที่ได้สวยเนียนสะใจ รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง ใบหน้าเนียนยิ่งขึ้น ฉากหลังก็คมชัดถือว่าทำออกมาดี คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ

จุดเด่น

– จัดโปรโมชั่น OPPO 10 years Anniversary ได้คุ้มค่าสุดๆ จ่ายเพียง 4,590 บาท ได้รับเครื่อง OPPO A83 2018 16GB ไปใช้งานฟรี (ปกติเครื่องเปล่าราคา 4,990 บาท) ซึ่งในแพ็คเกจได้แนบซิม TrueMove H แบบเติมเงินมาให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเต็มสปีด 1GB เน็ตไม่อั้นความเร็ว 1Mbps โทรฟรีในเครือข่าย 24 ชั่วโมง และ Wi-Fi ฟรีไม่อั้นตลอดทั้งปีบนเครือข่าย 4G TrueMove H
– ใช้ชิปเซ็ต Helio P23 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.5GHz รองรับการเล่นเกมได้แบบเพลินๆ ลื่นไหล
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple Slot ทำให้สามารถใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด พร้อมๆ กับ microSD Card สูงสุด 256GB โดยไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ
– หน้าจอ Full Screen ขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ขอบโค้งมน 2.5D ความละเอียด HD+ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ได้อย่างเต็มอรรถรส
– กล้องหน้าแม้จะมีความละเอียดน้อยไปนิด (8 ล้านพิกเซล) แต่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะ AI Beauty ปรับได้ 6 ระดับ ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้สวยเนียน โดยระบบจะจำแนกเพศ, อายุ,สีผิว และเชื้อชาติ จากนั้นจะปรับแต่งใบหน้าอย่างแม่นยำมากกว่า 200 จุด พร้อมรองรับฟีเจอร์ Bokeh ถ่ายหน้าชัดหลังลายได้อย่างมีมิติ
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash ถ่ายภาพออกมาได้คมชัดระดับนึง และรองรับการบันทึกวิดีโอระดับ Full HD
– รองรับฟีเจอร์ OPPO Share ส่งไฟล์ภาพระหว่างสมาร์ทโฟน OPPO ความเร็วสูงกว่า Bluetooth ถึง 100 เท่า โดยไม่ง้ออินเทอร์เน็ต
– รูปลักษณ์สวย ดีไซน์โค้งมนแบบ Unibody ตัวเครื่องบาง เบา ใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวกสบาย
– รองรับ Split Screen การใช้งาน 2 หน้าจอ และการโคลนแอปฯ เปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี
– แบตเตอรี่ความจุ 3180 mAh ใช้งานได้เพียงพอในแต่ละวัน
– นับเป็นสมาร์ทโฟนสายเซลฟี่ สเปคครบครัน ราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ

ข้อสังเกต

– ไม่รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
– ภายในกล่องแพ็คเกจไม่แถมเคสกันรอย และหูฟังมาให้
– หน้าจอชนิด TFT ความละเอียด HD+
– เลนส์กล้องหลังนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย
– หน่วยความจำแรม และความจุภายในตัวเครื่อง อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งานของบางท่าน
– กล้องหลังไม่สนับสนุนการใช้งานโหมด Ultra-HD

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

Honor 7C
Huawei Y7 Pro 2018
Gionee X1
OPPO A71 (2018)
vivo Y55s
Xiaomi Redmi Note 5A Prime
Xiaomi Redmi S2
Wiko View Max

ขอขอบคุณ บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด

Credit : ninethaiphone

คอนเฟิร์ม! OPPO Find X จัดหนัก Snapdragon 845 แรม 8GB คู่ความจุ 256GB

คอนเฟิร์ม! OPPO Find X จัดหนัก Snapdragon 845 แรม 8GB คู่ความจุ 256GBOPPO-Find-X-Render

หลังจากที่มีทีเซอร์ยืนยันมาแล้วว่า OPPO Find X สมาร์ทโฟนจากตระกูล Find Series รุ่นใหม่ที่ห่างหายไปนานหลายปี มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 19 มิถุนายนนี้ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส  ล่าสุดพบว่ามีข้อมูลสเปคการใช้งาน พร้อมภาพทีเซอร์ใหม่เผยออกมาให้เราได้ชมกันเพิ่มเติมแล้ว เราไปติดตามกันเลยค่ะ

screen-14.14.42[14.06.2018]

สเปคการใช้งานของ OPPO Find X (ยังไม่ยืนยัน)

– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว
– ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล
– ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ ColorOS 5.1
– CPU Snapdragon 845 แบบ Octa-core
– GPU Adreno 630
– RAM 8GB
– ROM 128GB และ 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 20MP + 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 เทคโนโลยีการซูม 5x แบบ Optical
– กล้องหน้าความละเอียด 25MP ค่ารูรับแสง f/2.0
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– แบตเตอรี่ความจุ 3730 mAh สนับสนุน Super VOOC Charge

screen-14.15.08[14.06.2018]

นอกจากนี้ยังพบว่ามีภาพสิทธิบัตรสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ OPPO เผยออกมาอีกด้วย โดยสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมีกล้องหลังที่คล้ายกับสามารถเลื่อนหรือพลิกมาเป็นกล้องหน้าได้ ซึ่งในสิทธิบัตรมีทั้งแบบกล้องเดี่ยวและกล้องเลนส์คู่ ด้านหน้ามีขอบโค้งทั้ง 4 ด้าน แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าสิทธิบัตรดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นใด

gsmarena_001

และสำหรับทีเซอร์ยังยืนยันมาแล้วว่า OPPO Find X ที่เผยออกมาทางเว็บไซต์ Weibo ระบุว่าจะมาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 845 แรม 8GB คู่ความจุ 256GB ส่วนจะเป็นจริงมากน้อยเพียงใด เราคงต้องมารอลุ้นกันอีกครั้งในวันเปิดตัว 19 มิถุนายนนี้ ซึ่งหากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ

Credit : ninethaiphone

เปิดตัว Xiaomi Redmi 6 และ Redmi 6A มีสแกนใบหน้า รัน Android 8.1 เคาะราคาเพียง 3 พันบาท!!

เปิดตัว Xiaomi Redmi 6 และ Redmi 6A มีสแกนใบหน้า รัน Android 8.1 เคาะราคาเพียง 3 พันบาท!!

Xiaomi Redmi 6A, Xiaomi Redmi 6

ล่าสุด Xiaomi แบรนด์ผู้ผลิตชื่อดังจากประเทศจีน ได้ทำการเปิดตัว Xiaomi Redmi 6 และ Xiaomi Redmi 6A ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยเป็นสมาร์ทโฟนระดับต้น มาพร้อมสเปคการใช้งานครบครัน ดีไซน์หน้าจอ Full Screen อัตราส่วน 18:9 และมีราคาย่อมเยาเข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่าย พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมรายละเอียดสเปคการใช้งานกันเลยค่ะ

6.4

สเปคการใช้งานของ Xiaomi Redmi 6

– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.45 นิ้ว อัตราส่วน 18:9
– ความละเอียด 720×1440 พิกเซล (HD+)
– ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ MIUI 9.5
– CPU Helio P22 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz
– RAM 3GB และ 4GB
– ROM 32GB และ 64GB
– microSD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 12MP + 5MP พร้อม LED flash, AI Portrait Mode, PDAF
– กล้องหน้าความละเอียด 5MP
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบสแกนใบหน้า
– สนับสนุน 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2, GPS, A-GPS, GLONASS
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Full Netcom 5.0 Dual 4G
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
– มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเงิน, สีฟ้า, สีชมพู และสีทอง

6a

สเปคการใช้งานของ Xiaomi Redmi 6A

– หน้าจอ 5.45 นิ้ว อัตราส่วน 18:9
– ความละเอียด 720×1440 พิกเซล (HD+)
– ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ MIUI 9.5
– CPU Helio A22 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz
– RAM 2GB
– ROM 16GB
– microSD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 13MP พร้อม LED flash, PDAF
– กล้องหน้าความละเอียด 5MP
– ระบบสแกนใบหน้า
– สนับสนุน 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Full Netcom 5.0 Dual 4G
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
– มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเงิน, สีฟ้า, สีชมพู และสีทอง

ราคาวางจำหน่าย

6.26.366.1

Xiaomi Redmi 6
รุ่น RAM 3GB + ROM 32GB ราคา 799 หยวน หรือประมาณ 4,000 บาท
รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB ราคา 999 หยวน หรือประมาณ 5,000 บาท

6a36a46a16a2

Xiaomi Redmi 6A
รุ่น RAM 2GB + ROM 16GB ราคา 599 หยวน หรือประมาณ 3,000 บาท

ทั้งนี้ Xiaomi Redmi 6 และ Xiaomi Redmi 6A จะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2018 เป็นต้นไป เราคงต้องมาติดตามกันต่อไปว่าจะมีเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยหรือไม่ หากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ โดยเพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารอย่างรวดเร็วทันใจได้ที่ www.ninethaiphone.com

Credit : ninethaiphone

เปิดตัว Moto Z3 Play ขุมพลัง Snapdragon 636 แรม 4GB กล้องหลัง AI พร้อมรองรับ Moto Mods

เปิดตัว Moto Z3 Play ขุมพลัง Snapdragon 636 แรม 4GB กล้องหลัง AI พร้อมรองรับ Moto ModsMoto Z3 Play
ล่าสุดก็เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Moto Z3 Play โดยยังมาพร้อมดีไซน์เหมือนเดิมกับรุ่นก่อนหน้า หน้าจอมีลักษณะยาวขึ้นกว่าเดิม มีรูไมโครโฟน 4 ตัว สแกนลายนิ้วมือถูกติดตั้งไว้ที่ขอบขวาของตัวเครื่อง และรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Moto Mods ที่ด้านหลังตัวเครื่อง เราไปชมรายละเอียดสเปคการใช้งานกันเลยค่ะ
1
สเปคการใช้งานของ Moto Z3 Play

– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.01 นิ้ว อัตราส่วน 18:9
– ความละเอียด 2160×1080 พิกเซล (Full HD+)
– กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 ขอบโค้ง 2.5D
– ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
– CPU Snapdragon 636 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz
– GPU Adreno 509
– RAM 4GB
– ROM 32GB และ 64GB
– microSD Card สูงสุด 2TB
2
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 12MP + 5MP ค่ารูรับแสง f/1.7 พร้อม dual LED flash, Dual Autofocus Pixel, ระบบ AI, บันทึกวิดีโอ 4K Ultra HD
– กล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 เลนส์มุมกว้าง 84° พร้อม Screen flash, Face Beauty, บันทึกวิดีโอ 1080p
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a/ac/b/g/n 2.4 GHz + 5 GHz, Bluetooth 5.0, USB-C, NFC, GPS, A-GPS, GLONASS
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– สนับสนุน Wireless Charging และ Moto Mods
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh สนับสนุน TurboPower 15W
– ขนาดตัวเครื่อง 156.5×76.5×6.75 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 156 กรัม

3

ทั้งนี้ Moto Z3 Play ยังไม่เผยราคาออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะมีราคาวางจำหน่ายราว $499 หรือประมาณ 15,900 บาท ส่วนจะเป็นจริงตามนี้หรือไม่ เราคงต้องมาติดตามกันต่อไปค่ะ โดยเพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารอย่างรวดเร็วทันใจได้ที่ www.ninethaiphone.com

Credit : ninethaiphone

เปิดตัว Lenovo Z5 จอไร้ขอบมีรอยบาก! กล้องหลังคู่ผสาน AI แรม 6GB รัน Android 8.1 ราคาเริ่มต้นที่ 6,xxx บาท

 

เปิดตัว Lenovo Z5 จอไร้ขอบมีรอยบาก! กล้องหลังคู่ผสาน AI แรม 6GB รัน Android 8.1 ราคาเริ่มต้นที่ 6,xxx บาท

Lenovo Z5
ล่าสุด Lenovo แบรนด์ดังจากประเทศจีน ได้ทำการเปิดตัว Lenovo Z5 สมาร์ทโฟนระดับกลางจากตระกูล Z Series ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วที่บ้านเกิด โดยมาพร้อมหน้าจอไร้ขอบมีรอยบากที่ด้านบน ซึ่งผิดคาดจากข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้าที่ระบุว่า Lenovo Z5 จะมาพร้อมจอไร้ขอบไร้รอยบาก

2

สำหรับ Lenovo Z5 ใช้หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19:9 มีพื้นที่ใช้งาน 90% ต่อตัวเครื่อง ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 636 จับคู่แรม 6GB กล้องทำงานผสานระบบ AI ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ ZUI 3.9 ตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีสวยงามสุดๆ รองรับสแกนลายนิ้วมือ และปลดล็อคด้วยใบหน้า พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมรายละเอียดสเปคการใช้งานกันเลยค่ะ

4

สเปคการใช้งานของ Lenovo Z5

– หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ขอบโค้ง 2.5D
– ความละเอียด 2246×1080 พิกเซล (Full HD+ )
– กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass
– Android 8.1 Oreo ครอบทับ ZUI 3.9 รองรับการอัปเดตเป็น ZUI 4.0 และ Android P
– CPU Snapdragon 636 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz
– GPU Adreno 509
– RAM 6GB
– ROM 64GB และ 128GB
– microSD Card สูงสุด 256GB
5
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED Flash, ระบบ AI, PDAF, Portrait
– กล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Hybrid (nano + nano / microSD)
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
– สนับสนุน 4G VoLTE
– รองรับ Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, GPS + GLONASS, USB Type-C
– แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh รองรับ Fast Charging 15W
– ขนาดตัวเครื่อง 153×75.65×7.85 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 165 กรัม
3
ราคาวางจำหน่าย

• รุ่น 64GB ราคา 1,299 หยวน หรือประมาณ 6,500 บาท (Black)
• รุ่น 64GB ราคา 1,399 หยวน หรือประมาณ 7,000 บาท (Aurora Blue, Indigo Blue)
• รุ่น 128GB ราคา 1,799 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท (Aurora Blue, Indigo Blue)

1

ทั้งนี้ Lenovo Z5 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ (Black), สีฟ้าออโรร่า (Aurora Blue) และสีน้ำเงิน (Indigo Blue) โดยเริ่มเปิดพรีออเดอร์แล้วในประเทศจีน และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2018 ต้นไป ส่วนจะมีเข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วยหรือไม่นั้น เราคงต้องมาติดตามกันต่อไปค่ะ โดยเพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารอย่างรวดเร็วทันใจได้ที่ www.ninethaiphone.com

Credit : ninethaiphone